The Alan Parsons Project เป็นวงดนตรี progressive rock ในลักษณะ concept album คือในแต่ละอัลบัมของเขาจะเป็นชุดดนตรีที่เล่าเรื่องต่างๆ เรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น ชุดแรกเลยคือ Tales of Mystery and Imagination ก็เป็น concept อัลบัมที่อ้างอิงถึงบทประพันธ์ของ Edgar Allan Poe ชุด I Robot ก็เป็นการเล่าเรื่องจากนิยายของ Isaac Asimov เป็นต้น
วงดนตรีวงนี้ก่อตั้งโดย Alan parsons แถมยังเป็น producer , sound engineer และเล่น keyboard ด้วย โดย Alan Parsons นั้นโด่งดังมาจากการเป็น sound engineer ให้กับ Pink Floyd ในสุดยอดอัลบัม The Dark Side of The Moon ในปี 1973 โดย Alan Parsons เองก็เริ่มออกอัลบัมในปี 1976 จนถึงปลายยุค 1980 มีอัลบัมออกมา 10 อัลบัมพอดี ที่ดังๆมี 2-3 อัลบัมได้แก่ Eye in the Sky , I Robot และ The Turn of a Friendly Card ส่วนใหญ่แนวเพลงของวงนี้ที่โด่งดังจะเป็นแนว Instrument music แต่ก็จะมีเพลงที่มีการร้องอยู่ด้วยทุกอัลบัม
ผมเองชอบฟัง The Alan Parsons Project ครับ มันฟังสบายดีไม่หนักเกินไป และทุกชุดจะอัดเสียงมาค่อนข้างดีมากเพราะหัวหน้าวงเป็นสุดยอด sound engineer แต่บางชุดฟังไม่รู้เรื่องครับมันลึกซึ้งเกินไปสำหรับผม โดยเฉพาะชุดแรก Tales of Mystery and Imagination มันมีแต่ instrument ฟังยาก เลยไม่ค่อยโด่งดังนัก แต่แนวดนตรีและการอัดเสียงคงดีมาก Mobile fidelity จึงเอาไปทำแผ่นในแนว audiophile ด้วย ถ้าชอบจินตนาการลองหามาฟังดูนะครับ
มาดูแผ่นที่ผมมีครับ
I Robot ออกในปี 1977 เป็น concept อัลบัมที่ได้แนวความคิดมาจากผลงานวนิยายวิทยาศาสตร์ของ Isaac Asimov ชื่อของอัลบัมคือ first robot แต่ส่วนใหญ่จะคิดว่าชื่อ i robot
อัลบัมนี้มีคุณภาพของเสียงที่ดีมากจน Mobile fidelity นำออกไปทำแผ่นเสียง และผมเองเมื่อฟังเปรียบเทียบก็พบว่าเสียงของแผ่น mobile นี้ดีกว่าแผ่นญี่ปุ่น โดยเฉพาะรายละเอียดและความคมชัด และราคาก็ไม่แพงมากหากจะซื้อก็ซื้อแผ่น mobile ไปเลยครับ
Pyramid ออกในปี1978 ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นอัลบัมที่เกี่ยวข้องกับอะไร แต่ลึกๆแล้วนอกจากจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพลังอำนาจของอียิปต์โบราณแล้วยังหมายถึง การมองอดีตด้วยสายตาของปัจจุบัน ( ส่วน I Robot เป็นการมองอนาคตด้วยสายตาปัจจุบัน ) Alan Parsons นี่แกช่างคิดอะไรได้ลึกซึ้งจริงๆครับ
The Turn of a Friendly Card ออกในปี 1980 เป็น concept อัลบัมที่เกี่ยวกับการเดิมพันของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เข้าบ่อนและเดิมพันด้วยทุกสิ่งที่ตัวเองมี ส่วนตัวผม ผมชอบอัลบัมนี้ที่สุดครับ โดยเฉพาะเพลง Nothing Left to Lose สุดยอดจริงๆครับ
Eye in The Sky เป็นอัลบัมที่ออกในปี 1982 ได้ concept มาจากกล้องวงจรปิดใน casino ที่จ้องมองเราอยู่ ท่าทาง Alan Parsons แกจะชอบเล่นการพนันเป็นพิเศษ อัลบัมนี้เป็นอัลบัมที่ประสพความสำเร็จที่สุด คงเป็นช่วงสุดยอดของแกแล้ว เพลงที่ดังมากก็เพลงเดียวกับชื่ออัลบัมแหละครับ ผมว่าคุณต้องเคยได้ยินแน่นอน
Ammonia avenue ออกในปี 1984 เป็นเรื่องเกี่ยวกับมุมมองของสังคมต่อการพัฒนาการด้านเทคโนโลยี่ เป็นอัลบัมที่ขายดีมากเช่นกันแต่ผมเฉยๆครับไม่ได้ชอบมากเป็นพิเศษแต่ก็มีหลายเพลงที่ไพเราะมากครับ
Vulture Culture เป็นอัลบัมออกในปี 1985 เดิมจะรวมอยู่กับ Ammonia Avenue เป็นอัลบัมคู่ แต่ต่อมาก็ได้แยกออกมาเป็นอัลบัมเดี่ยว เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคของชาวอเมริกัน ผมชอบอัลบัมนี้รองลงมาจาก Turn of a Friendly Card ฟังไพเราะแทบทุกเพลงเลยครับ
The Alan Parsons Project ยังมีอัลบัมที่น่าสนใจอีก 2-3 อัลบัม เช่น Eve , Stereotomy , Gaudi แต่ผมฟัง cd แล้วไม่ค่อยชอบเลยไม่ได้หาแผ่นมาฟัง กลัวว่าจะซื้อมาแล้วก็ไม่ได้ฟังเสียดายตังค์เปล่าๆ
Tuesday, March 20, 2007
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment